เนื้อหาหัวข้อ 4.1
4.1 การตรวจสอบ หรือการค้นหาช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
ช่องทางการจัดจำหน่ายออฟไลน์ (ชุมชน ตลาดจังหวัด ตลาดกลาง โรงงานอุตสาหกรรม)
          ฉลากอิเล็กทรอนิกส์ เป็นป้ายกำกับหรือช่องทางการขายใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม กลุ่มผู้บริโภค และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่กำลังพยายามสร้างแรงกดดันให้เกิดความโปร่งใสและมีการแจ้งข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ทำให้ฉลากที่เรียบง่ายกว่าเดิมในรูปของฉลากอิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก และอาจเป็นช่องทางการขายใหม่ที่น่าสนใจและมีศักยภาพอย่างน่าสนใจอีกด้วย
          รหัส QR บนผลิตภัณฑ์อาหารสามารถนำผู้ซื้อไปยังเว็บไซต์ที่ไม่เพียงเห็นแค่ข้อมูลสำคัญตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ความเป็นมาด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ สถานะ GMO ว่ามาจากฟาร์มและเกษตรกรรายใด ข้อมูลด้านจริยธรรม ข้อดีด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความพยายามด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของแบรนด์ สำหรับผู้บริโภคแล้ว การติดฉลากอิเล็กทรอนิกส์หมายถึงความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับได้ ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สำหรับผู้ผลิตแล้ว การติดฉลากอิเล็กทรอนิกส์จะหมายถึงโอกาสในการขายต่อยอดและการสร้างจุดขายสำหรับคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
          บรรจุภัณฑ์ที่มีฉลากซึ่งสามารถตรวจติดตามคุณภาพของผลิตภัณฑ์ บอกสภาพแวดล้อมภายใน/ภายนอกภาชนะบรรจุ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต ผู้กระจายสินค้า ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภคติดอยู่หรือพิมพ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์จัดว่าเป็นบรรจุภัณฑ์แบบฉลาด แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้3 กลุ่ม ได้แก่
1)      ฉลากอัจฉริยะที่บ่งชี้ (Indicators) คุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ เริ่มจากช่วงแรกมีการพัฒนาฉลากเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ เช่น อุณหภูมิ เวลา ก๊าซออกซิเจนและ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลทางอ้อมที่บ่งชี้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ทำให้รู้ถึงระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์นั้นคงอยู่ได้ ตัวอย่างเช่น การใช้ฉลากบอกอุณหภูมิวิกฤติ ฉลากบอกเวลา-อุณหภูมิ (Time-Temperature Indicators) หรือ ฉลากบอกถึงการรั่วซึมของบรรจุภัณฑ์ ต่อมาจึงมีการพัฒนาฉลากบ่งชี้แบบที่บอกโดยตรงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยการให้ข้อมูลที่ชี้ชัดเจาะจงไปถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์เมื่อผลิตภัณฑ์เกิดการเสื่อมสภาพ ตัวอย่างเช่น สารประกอบต่างๆ ที่ระเหยออกมาจากผลิตภัณฑ์ เช่น กรดที่เป็นสารอินทรีย์ แอลกอฮอล์ สารประกอบไนโตรเจน สารประกอบ ซัลฟิวริก เชื้อแบคทีเรีย ท็อกซิน ฯลฯ
2)      ฉลากอัจฉริยะแบบป้ายอิเล็กทรอนิกส์ อาร์เอฟไอดี (RFID Tag) RFID ย่อมาจากคำว่า Radio Frequency Identification เป็นป้ายที่สามารถอ่านค่าได้โดยผ่านคลื่นวิทยุจากระยะห่างเพื่อตรวจ ติดตาม และบันทึกข้อมูลที่ติดอยู่กับป้าย ซึ่งนำไปฝังไว้ในหรือติดอยู่กับวัตถุต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ กล่อง หรือสิ่งของใดๆ สามารถติดตาม ข้อมูลของวัตถุหนึ่งชิ้นว่าคืออะไร ผลิตที่ไหน ใคร เป็นผู้ผลิต ผลิตอย่างไร ผลิตวันไหน และเมื่อไร ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนกี่ชิ้น และแต่ละชิ้นมาจากที่ไหน รวมทั้งตำแหน่งของวัตถุนั้นๆ ในปัจจุบันว่าอยู่ส่วนใดในโลก โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยการสัมผัสหรือเห็นวัตถุนั้นๆ ก่อน แถบป้าย RFID มีข้อได้เปรียบเหนือกว่าระบบบาร์โค้ดหลายอย่าง เช่น ความละเอียดเพราะสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่าจึงทำให้สามารถแยกความแตกต่างของสินค้าแต่ละชิ้นได้ความเร็วในการอ่านข้อมูลจากแถบป้าย RFID ยังรวดเร็วกว่าการอ่านข้อมูลจากแถบบาร์โค้ดหลายสิบเท่า อีกทั้งยังสามารถอ่านข้อมูลได้พร้อมกันหลายแถบ RFID สามารถส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับได้โดยไม่จำเป็นต้องนำไปจ่อในมุมที่เหมาะสมเหมือนการใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Non-Line of Sight) สามารถเขียนทับข้อมูลได้จึงทำให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งจะลดต้นทุนของการผลิตป้ายสินค้า สามารถขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการอ่านข้อมูลซ้ำที่อาจเกิดขึ้นจากระบบบาร์โค้ด ความเสียหายของป้ายชื่อ (Tag) น้อยกว่า
3)      เซ็นเซอร์ (Sensors) ได้แก่ เซ็นเซอร์จุลินทรีย์ (Bio-sensors) และเซ็นเซอร์แก๊ส (Gassensors)
หน่วยงานภาครัฐได้จัดพื้นที่ในการจัดจำหน่ายสินค้างการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ดังนี้
1.       สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้สนับสนุนการจัดตั้ง “ตลาดสีเขียว” มารถเข้าชมวีดีได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=6i6GASTTTRg ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและช่องทางจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรที่ปรับเข้าสู่ระบบการผลิตเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐาน ในปี 2552 (ดำเนินการในจังหวัดพิษณุโลกและยโสธร) และโครงการส่งเสริมและพัฒนาตลาดสีเขียวสำหรับเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าและผลิตผลของเกษตรกรที่เข้าสู่ระบบการผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ ได้แก่
          1.1) จังหวัดพิษณุโลก และยโสธร โดยมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.)
          1.2) จังหวัดหนองคาย โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดหนองคาย
          1.3) จังหวัดเพชรบุรี โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบุรี
          1.4) จังหวัดเชียงราย โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย
2.   สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) พัฒนา Q Modern Trade and Q Market สำหรับเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าและผลิตผลของเกษตรกรที่เข้าสู่ระบบการผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรอินทรีย์วิถีพื้นบ้านรายชื่อห้างสรรพสินค้าทั้งหมดที่ได้รับเครื่องหมาย Q และรายชื่อตลาดทั้งหมดที่ได้รับเครื่องหมาย Q
ช่องทางการจัดจำหน่าย ออนไลน์ (เว็บไซต์ แพลตฟอร์มเกษตร)
          ช่องทางการขายแบบออนไลน์ (Online Market) คือ การจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรบนโลกไซเบอร์หรือระบบอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เช่น การซื้อ -ขาย การทำโฆษณาหรือวางแผนในส่วนของการตลาด ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันการทำตลาดบนโลกออนไลน์ได้มีความสำคัญมากในการจำหน่ายสินค้าการเกษตรโดยส่วนประกอบหรือองค์ประกอบของการตลาดแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ผู้ประกอบการมีหน้าร้านบนโลกไซเบอร์ ดังนั้นผู้ประกอบการควรมีการทำความเข้าใจเป็นอย่างดี เพื่อให้สินค้าและการจัดจำหน่ายทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ มีความเหมาะสมมากที่สุด รวมทั้งทำให้ผู้ประกอบการสามารถลดค่าใช้จ่ายและค่าเสียเวลาในการเดินทางไปยังตลาด
          ช่วงเริ่มต้นนั้น วิธีการทำการตลาดเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ รวมไปถึงผู้ประกอบการที่ทำการดำเนินธุรกิจอยู่ แต่ในการศึกษาข้อมูล และการทำความเข้าใจวิธีการทางการตลาดนั้น จะสามารถใช้วิธีการนำเอาข้อมูล (Data) ดังกล่าวไปใช้เพิ่มทำให้เข้าใจส่วนต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ธุรกิจ ออนไลน์ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย การใช้อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือเชิงพาณิชย์นั้น ช่วยให้ผู้ขายสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของสินค้า พนักงาน และการให้บริการได้ตลอดวัน ทั้งนั้นผู้ขายต้องศึกษาเรื่องของสินค้า ช่องทางในการประชาสัมพันธ์ กำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อให้การใช้สื่อออนไลน์ประเภทนี้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด การโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น
         การซื้อขายสินค้าเกษตรผ่านกลุ่มในเฟสบุ๊ก (Facebook) มีชื่อว่า ตลาดกลาง ซื้อ-ขายสินค้า เกษตร (กสิกรรม-ปศุสัตว์-ประมง-ป่าไม้) แห่งประเทศไทย
          การซื้อขายสินค้าเกษตรผ่านเฟสบุ๊กเพจ (Facebook fang) มีชื่อว่า DGTFarm : ตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์
          การซื้อขายสินค้าเกษตรผ่านเว็บไซต์ (Website) (https://getkaset.com/listing_types/2)
          สำหรับการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรบน Instagram ในขณะนี้ได้รับความนิยมมาก การโพสต์ขายสินค้าควรมีการบรรยายที่ดึงดูด หรือการรีวิวของลูกค้าเมื่อได้รับสินค้า เช่น การขายผลไม้ ควรมีการอธิบายให้ละเอียดเป็นผลไม้ปลอดสารพิษ ผลไม้เพื่อสุขภาพ และปลูกจากฟาร์มที่มีมาตรฐานการรับรองจาก มอกช. ส่วนใหญ่สิ่งแรกที่ผู้ซื้อรับรู้รูปสินค้าใน IG สิ่งแรกที่ลูกค้าต้องการทราบ ได้แก่ ราคา การจัดส่ง และโปรโมชันสินค้า
การประกันราคาสินค้าเกษตร (กระทรวงเกษตร/กระทรวงพาณิชย์)
          เกษตรกรสามารถติดตามการประกันราคาสินค้าเกษตร โดยการโหลดแอปพลิเคชันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้
1)      OAE Ag-Info

แอปพลิเคชันนี้เป็นแหล่งรวมข้อมูลสารสนเทศและข่าวสารเศรษฐกิจการเกษตรเพื่อเป็นประโยชน์ ในการวางแผนทำการเกษตรและการตัดสินใจ อาทิ ราคาสินค้าเกษตร ณ ตลาดกลางเป็นรายวัน ราคาสินค้าเกษตร ณ ไร่นา ปฏิทิน สินค้าเกษตร การติดตามสถานการณ์การผลิต การตลาด การเตือนภัยและข่าวสารการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนนโยบายของรัฐ แอปพลิเคชันนี้สามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะ IOS
การตรวจสอบ หรือการค้นหาช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
เนื้อหาหัวข้อ 4.2
4.2 การเปรียบเทียบราคากลางตลาด / รู้เท่าทันการค้าปลีก ค้าส่ง
การตรวจสอบราคากลางของการรับซื้อ / การจัดจำหน่าย
          กระทรวงพาณิชย์ได้มีศูนย์บริการข้อมูลสารสนเทศ i-Service เพื่อติดตามราคาผักสด-ค้าปลีก และได้อัพเดทข้อมูลในแต่ละวัน สามารถเข้าไปได้ที่เว็ปไซต์
          http://www.moc.go.th/index.php/rice-iframe-4.html
          กรมการค้าภายในได้มีข้อมลเกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตร สามารถเข้าไปได้ที่เว็ปไซต์ https://www.dit.go.th/Content.aspx?m=19 ในเว็ปไซต์ของกรมการค้าภายในมีข้อมูลดังต่อไปนี้ 
1)      ราคาขายปลีกส่ง อาหารสด ผัก ผลไม้ ประจำวัน
2)      รายงานราคาขายปลีก/ส่งสินค้า ประจำวัน
3)      ราคาขายส่งข้าว ผลิตภัณฑ์ กระสอบป่าน และสถานการณ์ข้าว
4)      เปรียบเทียบราคาขายปลีกอาหารสดในตลาดกรุงเทพมหานคร
5)      ราคาสินค้าเกษตร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
6)      เปรียบเทียบราคาขายปลีก สินค้าอาหารสดใน กทม. รายวัน
7)      เปรียบเทียบราคาขายส่งสินค้าเกษตรที่สำคัญ รายวัน
8)      รายงานราคาข้าวเปลือกและข้าวสาร ประจำวัน
9)      ราคาสินค้าเกษตร ย้อนหลัง รายเดือน
ทั้งนี้ลักษณะของตลาดที่ใช้ในการจำหน่ายสินค้าทางเกษตร และพ่อค้า/แม่ค้า มีอยู่ 4 ประเภท คือ
1.       ตลาดขายปลีกและขายตรงต่อผู้บริโภค กล่าวคือเกษตรกรผลิตสินค้าขึ้นมาก็นำไปขายเอง เช่นขายตามบ้าน ริมถนนหรือตลาดนัดต่าง
2.       ตลาดในท้องถิ่นและพ่อค้าในหมู่บ้าน กล่าวคือจะมีพ่อค้าเร่ พ่อค้าในหมู่บ้าน หรือสหกรณ์เป็นผู้ซื้อสินค้าและรวบรวมผลิตผลจากเกษตรกรในท้องถิ่น เพื่อส่งไปจำหน่ายที่อื่นต่อไป
3.      ตลาดกลางในเมืองและพ่อค้ารายใหญ่ กล่าวคือจะมีพ่อค้ารายใหญ่อยู่ในเมือง หรือในจังหวัดที่จะคอยรวบรวมผลิตผลจากเกษตรกรโดยตรง หรือจากพ่อค้าในท้องถิ่นหรือจากสหกรณ์ เพื่อที่จะบรรจุหีบห่อหรือแยกประเภท แล้วส่งต่อไปขายที่อื่น
4. ตลาดโลกและพ่อค้าส่งออก กล่าวคือจะมีพ่อค้าหรือโรงงานแปรรูปรายใหญ่ ที่คอยรวบรวมผลิตผลทางเกษตรเพื่อแปรรูป หรือบรรจุหีบห่อแล้วส่งไปขายทั้งในและต่างประเทศเช่น โรงงานแปรรูปยาง โรงงานแป้งมันสำปะหลั่ง โรงงาน น้ำตาล เป็นต้น
คาดการณ์ความต้องการของผลผลิต สร้างผลิตผลให้สอดคล้อง
          สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มีนโยบายการผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องความต้องการของตลาด เพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพรายละเอียดภาวะเศรษฐกิจการเกษตร อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจการเกษตรภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2561 รายละเอียดดังนี้
          1) สาขาพืช ในปี 2561 มีการขยายตัวร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยผลผลิตพืชสำคัญที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ลำไย และเงาะ สำหรับผลผลิตพืชที่ลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ทุเรียน และมังคุด
          2) สาขาปศุสัตว์ ในปี 2561 มีการขยายตัวร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยผลผลิตที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่เนื้อ ไข่ไก่ และน้ำนมดิบ สำหรับการผลิตสุกรมีปริมาณลดลง เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนได้ปรับลดการผลิตลงจากการที่ราคาสุกรตกต่ำในช่วงต้นปีนี้
3) สาขาประมง ในปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 โดยการทำประมงทะเลและประมงน้ำจืดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับผลผลิตประมงทะเลที่สำคัญ คือ กุ้งทะเลเพาะเลี้ยงมีทิศทางเพิ่มขึ้น ส่วนการทำประมงน้ำจืด ผลผลิตที่สำคัญ เช่น ปลานิล ปลา ดุก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
การเปรียบเทียบราคากลางตลาด / รู้เท่าทันการค้าปลีก ค้าส่ง
แนะนำบทเรียน EP5
เนื้อหาหัวข้อ 5.1
5.1 ความร่วมมือระหว่างเกษตรกรยุคใหม่ หน่วยงานสนับสนุนทุน และนักลงทุน
          หน่วยงานสนับสนุน
          สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ส่วนงานที่สนับสนุนภาคเกษตร ได้แก่ ฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่ ได้มีทุนสนับสนุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลด้านเกษตรให้กับเกษตรกร ภาครัฐและเอกชน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.depa.or.th/
          กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีบริการประชาชน ได้แก่ Agri Map สถานการณ์น้ำ สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร ข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตร การระบาดศัตรูพืชศูนย์บริการร่วมหน่วยงานในสังกัด MOAC ร้องเรียน/ร้องทุกข์ MOAC Call Center 1170 Mobile Application คู่มือบริการประชาชน และแบบสำรวจความคิดเห็น รวมไปถึงคลังความรู้ที่เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล ได้แก่ โครงการพระราชดำริพระราชกรณียกิจรัชกาลที่ ๙ มาตรฐานสินค้าเกษตร งานวิจัยด้านเกษตร Infographic และองค์ความรู้ด้านการเกษตร
          กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าต่อยอดโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ สร้างงาน สร้างอาชีพให้เกษตรกรที่ลงทะเบียนผ่านโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สร้างความมั่นคงในชีวิต และได้ร่วมมือกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ให้สินเชื่อพิเศษผ่าน 'โครงการ 100 แฟรนไชส์สร้างอาชีพเพื่อเกษตรกร' เฟสแรกเตรียมให้สินเชื่อเกษตรกรที่สนใจจะประกอบอาชีพอื่น หรือทำอาชีพเสริมหลังการทำนา (ข้อมูล ณ 9 มกราคม 2561)
          สถาบันทางการเงิน ธกส.
1)      ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตรสำหรับการ
          (1) ประกอบอาชีพเกษตรกรรมหรืออาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม
          (2) ประกอบอาชีพอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้
          (3) พัฒนาความรู้ในด้านเกษตรกรรมหรืออาชีพอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร
          (4) ดำเนินกิจการตามโครงการที่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบ เกษตรกรรม ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร
2)      ประกอบธุรกิจอื่นอันเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรม
3) ดำเนินงานเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาชนบท โดยให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือการบริหารจัดการแก่บุคคล กลุ่มบุคคล ผู้ประกอบการ กองทุนหมู่บ้าน หรือชุมชน รวมทั้งองค์กรที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบใด ที่มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรหรือชุมชน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร หรือชุมชนให้มีประสิทธิภาพทั้งในด้านการลงทุน การผลิต การแปรรูป และการตลาด หรือเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจหรือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ความร่วมมือระหว่างเกษตรกรยุคใหม่ หน่วยงานสนับสนุนทุน และนักลงทุน
เนื้อหาหัวข้อ 5.2
5.2 การจัดการความเสี่ยงทางการเกษตร
     ความเสี่ยงด้านเกษตรออกเป็น  5 ประเภท คือ
1)    ความเสี่ยงด้านการผลิต เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในผลผลิตของพืชผลและปศุสัตว์ที่เกิดจากสภาพอากาศ เชื้อโรคและแมลง
2)    ความเสี่ยงด้านการตลาด เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของราคาผลผลิตและปริมาณที่สามารถจำหน่ายได้
3)    ความเสี่ยงด้านการเงิน เกี่ยวข้องกับความสามารถที่จะชำระคืนดอกเบี้ยและต้นเงินกูที่ไดกูมาทําการเกษตร
4)    ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและกฎข้อบังคับเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบของภาครัฐที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการเกษตร
5)    ความเสี่ยงด้านทรัพยากรมนุษย์ซึ่งมาจากความไม่แน่นอนในแรงงานที่ต้องใช้ในการเกษตร
  นอกจากนี้ควรมีวิธีการจัดการความเสี่ยงและความไม่แน่นอน และมีการประกันความเสี่ยง(insurance) แบ่งออกได้ 3 ประเภท ดังนี้
1.       การประกันชีวิต (life insurance)
2.      ประกันภัยทรัพย์สิน(property insurance)
3.       ประกันภัยพืชผล (crop insurance) เช่น การประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีน้ำฝนที่วัดจากสถานีใกล้แปลงของเกษตรกรจะจ่ายค่าชดเชยความเสียหายจากภัยแล้งเมื่อปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ต่ำกว่าค่าอ้างอิงในสัญญา (ซึ่งเป็นค่าที่เคยทำให้เกษตรกรเกิดความเสียหายในอดีต) และในเมื่อดัชนีต่างๆ มักเป็นดัชนีในระดับพื้นที่ไม่ใช่ระดับเกษตรกร การประกันภัยนี้จึงเหมาะสมในการจัดการ covariate risk ของเกษตรกร
อย่างไรก็ตามวิธีการจัดการความเสี่ยงและความไม่แน่นอนด้านการผลิต (production management) ควรเลือกใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม การลงทุนการลดความเสี่ยง และได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ
          ความเสี่ยงในการลงทุนทางการเกษตร
          สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ได้แบ่งประเภทของความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทางการเกษตร ดังต่อไปนี้
1)      ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทางการผลิต (production risk) เป็นความเสี่ยงที่ เกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนของจำนวนหรือปริมาณของผลผลิตเกษตรที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่สามารถทราบจำนวนผลผลิตได้ล่วงหน้าก่อนการเก็บเกี่ยว เนื่องจากผลผลิตเหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการซึ่งอยู่เหนือการควบคุมเช่นภาวะ ธรรมชาติเช่นภาวะภูมิอากาศ การระบาดโรคแมลงศัตรูพืช
2)      ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากราคา (price risk) มีความเสี่ยงแยกเป็น 2 ชนิด
          2.1. ราคาผลผลิต ผลผลิตทางการเกษตรมักจะมีการผันผวนไปตามฤดูกาลส่งผลต่อ รายได้ และการตัดสินใจที่จะลงทุนในการผลิต ทั้งนี้เป็นผลมาจากความไม่สมดุล ระหว่างอุปสงค์และอุปทานเป็นสำคัญ
          2.2. ราคาปัจจัยการผลิต ปัจจัยการผลิตโดยทั่วไปมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเสมอ เกษตรมีความ เสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตที่จะเพิ่มสูงขึ้นจนไม่คุ้มต่อราคาที่จะจำหน่ายผลผลิตได้ ราคาปัจจัย การผลิตขึ้นกับอุปสงค์และอุปทานของปัจจัยการผลิตและองค์ประกอบ อื่นๆอีกเช่นราคา น้ำมันมีผลต่อต้นทุนปัจจัยการผลิตโดยตรงและโดยอ้อม
3  ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนด้านตลาด (market risk) เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงจากผู้ซื้อ หรือมีปัญหาในการเข้าถึงตลาดเนื่องจากระยะทาง หรือผู้ซื้อไม่ทราบว่าจะซื้อขายกับเกษตรกรได้ หรือการเปลี่ยนแปลงทาง พฤติกรรมการบริโภค ปัญหาความเสี่ยงในการชำระเงินหรือการเปลี่ยนแปลง บิดพริ้วทางด้านข้อตกลงหรือความสามารถในการผลิตของเกษตรกรเองที่ไม่ สามารถผลิตผลผลิตได้ตามที่ลูกค้าต้องการทั้งในเรื่องปริมาณ เวลา คุณภาพและราคา
4)  ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทางการเงิน (financial risk) เป็นความเสี่ยงที่ เกี่ยวข้องกับความสามารถในการชำระหนี้ เงินที่กู้ยืมมาเป็นผลมาจากปัญหา รายได้ที่แตกต่างหรือไม่เพียงพอหรือรอบการผลิตผลผลิตทางการเกษตรไม่ สอดคล้องกับระยะเวลาการชำระหนี้เกิดปัญหาภาระดอกเบี้ยซึ่งอาจส่งผล กระทบต่อความสามารถและความอยู่รอดของธุรกิจในอนาคตได้
5)  ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง (individual risk) เป็น ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในระบบธุรกิจเกษตร การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม ข้อตกลงเงื่อนไขที่ไม่ตรงกัน ความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือส่วนตัว ที่เปลี่ยนแปลงไปมีผลทำให้ไม่สามารร่วมงานกันได้
การแข่งขันทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่มี Supply สูง
          ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น ผู้บริโภค นิยมค้นหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านสังคมออนไลน์ (Social Media) ทําให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัว โดยเน้นกลยุทธ์การทําการตลาดผ่านสื่อดิจิตอล (Digital Marketing) มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) ที่ช่วยส่งเสริมการขาย และสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมของกลุ่มลูกค้าผ่านสื่อออนไลน์ภายใต้การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
          อย่างไรตามการกล่าวถึงเทคโนโลยีและการสื่อสารในปัจจุบันทําให้โลกธุรกิจแคบลง การเข้าถึงลูกค้าโดยการใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วงชิงความได้เปรียบในด้านการแข่งขันในการเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการนำเสนอ สินค้า/บริการ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพ กำหนดกรอบ เวลา และ บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
          การบริหารจัดการทางด้านการเงิน
          การจัดตั้งสหกรณ์การเกษตร เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพของสมาชิก และช่วยแก้ปัญหาของสมาชิกในด้านต่างๆ ได้แก่ การขาดแคลนเงินทุน ขาดแคลนที่ดินทำกิน ปัญหาในเรื่องการผลิต ขาดปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่สหกรณ์การเกษตรช่วยแก้ไขได้และเป็นวิธีการแก้ไขในระยะยาว โดยการให้บริการต่างๆ แก่สมาชิก ได้แก่ การให้เงินกู้ การรับฝากเงิน การรวบรวมผลิตผลการเกษตรและผลิตภัณฑ์ของสมาชิกมาจัดการจำหน่ายหรือแปรรูปออกจำหน่าย เป็นต้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปต่อยอดในการทำเกษตรให้มีศักยภาพมากขึ้น
          กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรจัดตั้งเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายช่วยเหลือหรือส่งเสริมเกษตรกรตามกิจกรรมในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. 2554 ได้แก่
1.   การส่งเสริมการผลิตผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร
2.   การส่งเสริมการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานคุณภาพของผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร
3.   การรักษาเสถียรภาพของราคาและการจำหน่ายผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร
4.   การดำเนินการที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อป้องกันและขจัดภัยอันจะเป็นผลเสียหายแก่เกษตรกร
5.   การศึกษาวิจัย เพื่อการพัฒนาการผลิต การแปรรูป หรือการตลาดซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการดำเนินการ
ทั้งนี้เกษตรกรสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปที่กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร (https://www.opsmoac.go.th/fund-home)
อย่าไรก็ตามเกษตรกรสามารถใช้ PDCA Model ในการจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการทำการเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพ โดยมีหลักการดังนี้
1.   Plan คือ การวางแผน
2.   DO คือ การปฏิบัติตามแผน
3.   Check คือ การตรวจสอบ
4. Act คือ การปรับปรุงการดำเนินการอย่างเหมาะสม
การจัดการความเสี่ยงทางการเกษตร
KOMOMI Smart Farmer
 Reviewed by Uthid
        on 
        
มกราคม 25, 2565
 
        Rating:
 
        Reviewed by Uthid
        on 
        
มกราคม 25, 2565
 
        Rating: 
 
 
 
 
ไม่มีความคิดเห็น: